โฆษณาแฝง (Stealth Marketing) หรือ Tie-in เป็นหนึ่งวิธีการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ที่รู้จักและทำกันมานานอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว ซึ่งก็จะมีวิธีการที่จะแฝงตัว ..
โฆษณาแฝง ที่คุณอาจไม่รู้ตัวด้วย Stealth Marketing ที่ Tie-in เข้าถึงและทรงพลัง!
การทำ โฆษณาแฝง หรือ Tie-in เป็นหนึ่งในกระบวนการและวิธีการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) เพื่อการ “ประชาสัมพันธ์” บริษัท หรือเพื่อ “สื่อสารทางการตลาด” กับ “ลูกค้า” (Users, Consumers, Audiences) ที่รู้จักและทำกันมานานอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว ซึ่งก็จะมีวิธีการ โฆษณา ที่จะแฝงตัวผลิตภัณฑ์ หรือ สินค้าและบริการ (Goods and Services) หรือ โลโก้ของแบรนด์ (Logo) เข้าไปไว้เป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์ใดคอนเทนต์หนึ่ง
ยกตัวอย่างเช่น การใส่สินค้าและบริการลงไปในซีรีย์ โดยเชื่อมโยงให้ตัวละครเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ หรือ บริษัท หรือแม้แต่การจัดวางไว้ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในฉากอย่างไม่รบกวนผู้ชม
ทั้งนี้ เมื่อ ฝั่งแบรนด์เอง (Brands) หรือ บริษัทตัวแทนรับจ้างฯ (Agencies) หรือ ผู้เผยแพร่ (Publishers) ทำกันอย่างนี้เป็นเวลานาน แน่นอนกลุ่มเป้าหมาย (Targets) ในที่นี้หมายถึง ผู้ชม ผู้ฟัง ผู้อ่านทุกคนย่อมรู้กันโดยทั่วไปว่า เมื่อเราได้รับรู้หรือทราบวิธีการอะไรแบบนี้เป็นเวลานานๆ เราย่อมรับรู้ได้หรือเข้าใจได้ว่า เป็นการโฆษณา จนบางครั้ง อาจทำให้เราเองรับรู้ได้ทันทีว่า อันนี้คือ “การโฆษณาแฝง”
สารบัญ
–“การตลาดแบบล่องหน” หรือ Stealth Marketing คืออะไร?
–ตัวอย่าง โฆษณาแฝง แบบ Parody Marketing เพื่อให้เห็นภาพและวิธีการมากยิ่งขึ้น
–สรุป : ข้อดีและข้อจำกัด ของการทำ โฆษณาแฝง ด้วยการตลาดแบบล่องหน หรือ Stealth Marketing ในแบบ Parody Marketing
- แจมเพย์ (Jampay) เปิดพื้นที่ให้ธุรกิจต่างๆ ประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ฟรี!
- Range Rover & The Chainsmokers – Marketing ที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง?
- การตลาดปากต่อปาก กับซีรีย์ รักฉุดใจนายฉุกเฉิน (My Ambulance)
แล้ว “การตลาดแบบล่องหน” หรือ Stealth Marketing คืออะไร?
แน่นอนว่า .. การทำ “การตลาด” หรือ “การโฆษณา” เพื่อการ โฆษณาแฝง วิธีการเดิม ๆ บ่อย ๆ เป็นระยะเวลานานๆ ย่อมทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ได้ทันทีว่า กำลังโดนโฆษณาอยู่ (Marketed Feeling) มากจนเกินไป และ อาจทำให้รู้สึกว่าโดนรวบกวนในระหว่างที่กำลังรับ ข่าวสารหรือ เนื้อหาต่างๆ
การทำตลาดแบบล่องหน หรือ Stealth Marketing คือ การโฆษณา แบบที่บางครั้งกลุ่มเป้าหมายไม่รู้ตัว หรือ ไม่ทำการรบกวนกลุ่มเป้าหมาย ในขณะที่กำลังรับชม กำลังอ่าน หรือ กำลังฟังอะไรบางอย่างอยู่มากจนเกินไป
ซึ่งนั่นก็เป็นโจทย์สำหรับนักการตลาดยุคใหม่ๆ ที่มีความท้าทายในการสร้างการรับรู้ด้วย เทคนิคทางการตลาด หรือ วิธีการทางการตลาด ใหม่ๆบ้าง เพื่อทำการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยไม่สร้างความรบกวน และยังสร้างผลลัพธ์ใหม่ๆ กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ส่งผลที่ดีให้กับแบรนด์ของตนเอง
“เทคนิค หรือ วิธีการทางการตลาด” ที่ทำกันแบบ Stealth มีด้วยกันหลากหลายวิธี แต่ กลยุทธ์ทางการตลาด ที่เหนือชั้นและทรงพลังมากกว่า คือ การโฆษณาแบบตรงๆ แต่ ทำการปรับเปลี่ยนสิ่งที่แสดงเพื่อการรับรู้ที่เปลี่ยนไปบางอย่าง เช่น การ ปรับเปลี่ยนโลโก้ของแบรนด์เล็กน้อย การตัดบางส่วนออกเล็กน้อย หรือ เรียกว่าวิธี Parody Marketing หรือ การตลาดแบบล้อเลียน นั่นเอง
ตัวอย่าง โฆษณาแฝง แบบ Parody Marketing เพื่อให้เห็นภาพและวิธีการมากยิ่งขึ้น
หมายเหตุ: บทความนี้ ไม่ได้ชี้ชัดว่า บริษัทฯ ต่างๆ ใช้วิธีการแบบนี้หรือไม่ โดยอาจจะไม่ได้ทำการสนับสนุน หรือ สปอนเซอร์ แต่อย่างใด โดยทางเรากำลังอธิบายเพื่อเป็น กรณีศึกษา (Case Study) ว่า จริงๆแล้ว มันทำให้ กลุ่มเป้าหมาย “นึกถึง” แบรนด์นั้นๆเป็นแบรนด์อับดับแรกจริงๆ ซึ่งหากเป็นโจทย์ที่นักการตลาด หรือ ฝั่งแบรนด์วางเอาไว้ การทำแบบนี้ก็ ถือว่า เป็นการกระทำที่ประสบผลสำเร็จมากนั่นเอง
เอาหล่ะ มาเริ่มศึกษากันเลย ..
- ผู้อ่านนึกถึง แบรนด์ใดบ้าง ให้คำตอบมันอบอวลอยู่ในใจท่าน




ขออนุญาตและขอขอบคุณ ที่มา : YouTube Channel : TARYUT CHATSORO, ก้อง ทรงเอ
- ยกตัวอย่างภาพเพิ่มเติม ด้วย ปกของบทความ เพื่อกรณีศึกษา ผู้อ่านนึกถึงแบรนด์ไหนเป็นแบรนด์แรก



- การพูดเล่นมุกเพียงเล็กน้อยจากตัวละคร ย่อมทำให้เกิด “การตลาดแบบล่องหน” ได้เช่นกัน



ต้องอธิบายก่อนว่า .. ผู้เขียน เกิด เติบโตและอาศัยอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก จึงทำให้รู้จัก “กล้วยตาก” (Solar Dried Banana, Sun-Dried Banana) เป็นอย่างดี เมื่อได้พักสายตาจากการเขียนคอนเทนต์ก่อนหน้านี้ ก็พักผ่อนหาอะไรดูตามภาษา จนได้มาดู รายการ บริษัท ฮา ไม่จำกัด (มหาชน) EP.97 ที่ออกอากาศวันที่ 21 กันยายน 2562 และได้เห็นตัวละครเล่นมุกนี้ในรายการ และได้เกิดไอเดียในการเขียนบทความเรื่อง พลัง และ อิทธิพลของการตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์ หรือ Social Media Marketing นี้ขึ้นมา
ซึ่งผู้เขียน นึกถึงเป็นแบรนด์แรก และ จดจำได้ทันทีว่า เป็นกล้วยตากแบรนด์อะไร ที่วางขายอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ถึงแม้จะมีการตัดเอา โลโก้ (Logo) ของแบรนด์ หรือ รูปกล้วยตาก (Product) ออก แม้จะเป็นเวลาเพียง 1 วินาทีก็ตาม ซึ่งเห็นว่า ผู้ที่เป็น สาวกของแบรนด์นี้ ย่อมจดจำได้ในทันทีเช่นกัน ว่าคือ กล้วยตากจิราพร ด้วย สี รูปแบบ และลักษณะต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเห็นตราสินค้าเสมอไป
หรือ หากผู้รับชมที่ไม่เคยรู้จัก กล้วยตาก มาก่อน .. ย่อมสงสัยว่า กล้วยตากคืออะไร? หน้าตาเป็นอย่างไร? ขายที่ไหน? เป็นของใคร? และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของ “Consumer Journey” หรือ “พฤติกรรมของผู้บริโภค” (Customer Behaviors) ในการเสาะหาข้อมูลต่าง ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ
ซึ่งแน่นอน Youtube Channel : Zense Enteraiment ที่มี Subscribers กว่า 4 ล้านคน มียอดผู้เข้าชมเฉลี่ยต่อคลิป ประมาณ 1,500,000 – 3,000,000 วิวขั้นไป และเชื่อได้เลยว่า ต้องมีผู้ชมอย่างน้อย 1 คน ที่ เข้า Google หรือ Search Engine อื่นๆ เพื่อหาว่า “กล้วยตากมันรูปร่างหน้าตายังไง ทำไมเขาถึงแซวว่า เหมือนกล้วยตาก” จนไปเจอเข้ากับ “รูปผลิตภัณฑ์กล้วยตาก” จริงๆ ของแบรนด์ดังกล่าวได้ หรือ อย่างน้อย 1 คน ที่หาข้อมูลเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ จนเกิดการตัดสินใจซื้อในที่สุด ถือเป็น เทคนิคการสร้างการรับรู้ใหม่ที่ทรงพลังมาก ที่แม้แต่ ผู้เผยแพร่ (Publisher) และ ฝั่ง เจ้าของผลิตภัณฑ์ (Brand Owner) อาจจะคาดไม่ถึง



อ่านมาถึงตรงนี้ ผู้อ่านจะเริ่มเห็น รวมถึงได้ไอเดียและมุมมองที่กว้างขึ้น เกี่ยวกับอิทธิพลที่ทรงพลังของ “การตลาดแบบล่องหน” แม้บริษัทฯ จะไม่ได้เป็นผู้ลงโฆษณาหรือสนับสนุนก็ตาม และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างมาก ต่อการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ของกลุ่มเป้าหมาย, การพูดถึงแบบปากต่อปาก, Consumer Journey, รวมถึงการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการนั้นๆ ทั้งสิ้น
อ่านเพิ่มเติม:
–กล้วยตาก : ภูมิปัญญา สู่ อาหารว่างทางเลือกที่ควรมีติดบ้านและสินค้าส่งออก
–Social Media Marketing – 1 วินาทีมีค่าขนาดไหนกันนะ?
สรุป : ข้อดีและข้อจำกัด ของการทำ โฆษณาแฝง ด้วยการตลาดแบบล่องหน หรือ Stealth Marketing ในแบบ Parody Marketing
ข้อดี ของ การทำตลาดแบบล่องหน หรือ Stealth Marketing
- ประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่ได้เห็น แบรนด์ หรือ สินค้าและบริการ แบบตรงๆ นั้นทำให้ เรทราคาในการโฆษณา หรือ เผยแพร่ชิ้นงานโฆษณา (Ads) ย่อมถูกลงเล็กน้อย แต่กลับทำให้ผู้คนนึกถึงแบรนด์ได้ทันที ซึ่งเป็นอะไรที่ทรงพลังกว่า
- ไม่รบกวนผู้ชม ผู้ฟัง ผู้อ่าน หรือ กลุ่มเป้าหมาย มากจนเกินไป ทำให้กลุ่มเป้าหมายยังสามารถรับคอนเทนต์นั้นอย่างปกติไม่ติดขัด หรือ ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกโฆษณามากจนเกินไป โดยยังสามารถทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในแบรนด์ Trust Brand ได้เช่นกัน
- สามารถสนับสนุนหรือสปอนเซอร์ในกิจกรรมที่อาจจะตรงข้ามกับ บุคลิกของแบรนด์ (Brand Personality) หรือ ตำแหน่งทางการตลาด (Brand Positioning) หรือ กลุ่มเป้าหมายหลัก (Brand Targeting) ได้ ทำให้สามารถสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ โดยไม่ส่งผลด้านลบกับบุคลิกของแบรนด์ กลุ่มเป้าหมายหลัก และทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ยังแข็งแกร่งและดูดีเหมือนเดิม
ข้อจำกัด ของ การทำตลาดแบบล่องหน หรือ Stealth Marketing
- สามารถทำได้เฉพาะแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายแล้วเท่านั้น ที่อยู่ในใจลูกค้าขั้น Resonance หรือ Relationship กล่าวคือ เป็น “สาวกแบรนด์” (Brand Loyalty) ที่คอยปกป้อง คอยสนับสนุน หรือ อยากบอกต่อคนอื่นให้มาชื่นชอบสินค้าและบริการที่ตนเป็นสาวกนี้ เพราะ เมื่อเห็นเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของ อัตลักษณ์ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น สี ตัวอักษร ภาพประกอบ หรือคำโปรย ที่มีส่วนคล้าย หรือ ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับบางส่วน เป็นต้น ก็ทำให้นึกถึงแบรนด์นั้นๆเป็นแบรนด์แรกขึ้นมาได้ทันที
- สามารถทำได้เฉพาะแบรนด์ที่วางรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับแบรนด์มาอย่างดีแล้วเท่านั้น เช่น แบรนด์ที่มีการวางสีหลักของแบรนด์ (Color Branding) ไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า บุคลิกของแบรนด์เป็นอย่างไร เช่น สีเขียว สีส้ม สีแดง สีน้ำเงิน เป็นต้น ประกอบกับ แบรนด์ที่มี อัตลักษณ์ของแบรนด์เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำได้ง่ายของผู้คน เช่น รูปทรง (Shape) เช่น วงกลมพื้นหลัง เช่น ตัวอย่าง Starbucks, Pepsi รูปสัญลักษณ์ (Symbolic Icon) เช่น รูป Apple รูปแบบตัวอักษร (Fonts) เช่น เอกลักษณ์ของคำว่า Samsung, Coca-Cola
หมายเหตุ : บทความนี้ เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวมุมมองหนึ่งในการวิเคราะห์เท่านั้น หากต้องการนำไปอ้างอิงประกอบการศึกษา สามารถทำได้ โดยผู้อ่านสามารถค้นหาบทความอื่นๆจากหลายๆแหล่งที่มาเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน รวมถึงการศึกษาไม่มากก็น้อย
อ้างอิง
–Stealth Marketing









