Google และ Wongnai ให้อะไรกับเรา?

Google และ Wongnai ให้คุณค่าอะไรกับเรา?

คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Search Engine อย่าง Google และ Wongnai .. แต่จริงๆแล้วเขาให้อะไรกับเราหล่ะ

ในแง่ของการบริการ .. “กูเกิล” และ “Wongnai” เป็น บริษัท ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลต่างๆ (Search Engine Services) บนอินเตอร์เน็ต ที่จะช่วยให้เราสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบการตัดสินใจของเราได้ ซึ่งก็มีผู้ให้บริการลักษณะเดียวกันเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน

ซึ่ง “คุณค่าทางตรงของบริการ” อาจจะเป็น การที่ผู้ใช้งานสามารถค้นหาด้วยเครื่องมือนี้ และเครื่องนี้มือ สามารถตอบสนองการค้นหาของผู้ใช้งาน ได้อย่างประสิทธิภาพ เที่ยงตรง ถูกต้อง ตรงกับความต้องการในการค้นหา และรวดเร็ว

ซึ่งหากมองให้ลึกไปถึงแก่นของบริการของ Search Enginge คุณค่าอีกอย่างของบริการเหล่านี้น ยังถือเป็นการแก้ปัญหา “Pain Point” ของ ผู้ใช้งาน (Users) ได้อย่างยอดเยี่ยม และมันให้คุณค่าด้าน “ความรู้สึกที่ปลอดภัย” กับเรานั่นเองครับ  รู้สึกว่าเราไม่โดดเดี่ยวเกินไป “มีเพื่อน”

ยกตัวอย่างให้ภาพง่ายๆ : เมื่อเวลาเราอยากจะไปให้บริการในร้านอาหาร หรือ รับประทานอาหาร ในร้านสักร้านหนึ่ง ที่เราไม่เคยไป หรือ ร้านค้า ร้านกาแฟ หรือ สถานที่ต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยว ไม่รู้จักร้านนั้นๆว่าอยู่ตรงไหน เราก็จะเปิดดู แผนที่ (Maps) ก่อนบางครั้งเราก็อยากจะถามใครสักคน แต่เราไม่รู้จะถามใคร บางครั้งในตอนนั้น เราอยู่ตัวคนเดียว

เพื่อถามหา “ข้อมูลที่ประโยชน์” ต่างๆ เกี่ยวกับบริการ (Services) ของสถานที่นั้นๆ ก่อนที่เราจะ “ตัดสินใจ” ไปใช้บริการ เพราะ เราอาจจะไม่รู้ว่า “เอ๊ะ มันต้องทำอย่างไรนะ”  “ราคา เท่าไหร” เงินที่เรามีอยู่จะพอไหมนะ? บางครั้งหารูปเมนู หรือรายการอาหารของร้านแล้ว ซูมดูราคา หรือ “เปิด กี่โมง” หรือ มีอะไรที่เราควรทำ-ไม่ควรทำตอนไปใช้บริการในร้าน มีวิธีการเข้าไปใช้บริการอย่างไร การจองต้องทำแบบบใด

ยกตัวอย่างกันแบบเห็นภาพเข้าไปอีก .. สมมติว่า เราอยากจะเข้าไปใช้บริการ สตาร์บัค (Starbucks) แต่เราไม่เคยไปใช้บริการมาก่อนเลย และได้ยินมาว่า ต้องสั่งชื่อเมนูที่มันค่อนข้างจำยาก คนเราไม่เหมือนกัน บางคนก็อาจจะไม่รู้สึกประหม่า แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกประหม่า ไม่กล้าสั่ง หรือ กลัวสั่งผิดแล้วจะอายคนอื่นๆ “กลัวเสียหน้า” อันนี้อนุมานเอาว่า เป็นลักษณะเบื้องต้นของ “คนส่วนใหญ่” เลยก็ว่าได้ ก็จะทำการ เสิร์ช (Googles) หาก่อนเข้าใช้บริการ “สตาร์บัค สั่งเมนูอย่างไร” หรือ “สตาร์บัค ราคาเท่าไหร่”

ซึ่งบอกผู้อ่านว่า เราสามารถสั่งแบบทั่วไปได้ “อเมริกาโน่เย็น แก้วกลาง ไม่หวาน” เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องสั่งแบบภาษาอังกฤษก็ได้ (ซึ่งคำภาษาอังกฤษเหล่านั้น เป็น คำที่จดทะเบียนการค้า หรือ เครื่องหมายการค้า (Trademark) ของทาง Starbucks ซึ่งจะอธิบายในบทความถัดๆไป)

เพราะว่า บางครั้ง เราไม่กล้าที่จะเดินตรงเข้าไปในร้าน หรือ เข้าไปใช้บริการนะครับ บางทีเราเคอะๆเขินๆไม่กล้าเข้าไปครับ ดังนั้น บริการเหล่านี้ทำให้เรา “มีความกล้ามากขึ้น” “เราไม่ประหม่า” ที่จะใช้ สินค้าและบริการ (Goods and Services) ของร้านนั้นๆได้ดียิ่งขึ้น

อีกส่วนหนึ่ง บางครั้ง เราก็ไม่อยากที่จะเข้าไปเสี่ยงกับ ร้านค้า ที่มีผู้มา รีวิว (Reviews) ว่า สินค้าไม่ดี บริการไม่ดี เราก็อยากจะใช้บริการกับร้านค้าที่มีสินค้าและบริการที่ดีด้วยนั่นเอง และก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรา “รู้สึกปลอดภัย”

บางคนอาจจะบอกว่า มันจริงอย่างนั้นหรือ? ..

คนเรา อาจจะโกหกคนอื่นได้ แต่มักจะไม่โกหก Search Engine และค้นหาอย่างตรงไปตรงมา



แล้ว “การแก้ปัญหาให้คนส่วนใหญ่ได้” ของ Google และ Wongnai สำคัญอย่างไร?

การเริ่มต้นทำ “ธุรกิจ” (Business) สิ่งสำคัญที่เรามักจะได้รับรู้ คือ ธุรกิจของเรา ทำอะไร กลุ่มลูกค้า (Targets) ของเราเป็นใคร มีขนาดของกลุ่มลูกค้าใหญ่มากน้อยขนาดไหน และเรา “แก้ปัญหา” หรือ “มอบอะไรให้” กับ “ลูกค้า” (Consumers, Users) ของเรา อย่างไรบ้าง?

รวมถึง “เราจะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจเราจากช่องทางไหนบ้าง” ซึ่งคำถามทั้งหมดที่พูดมา เป็นส่วนสำคัญพื้นฐานในการเริ่มทำ “โมเดลธุรกิจ” หรือ “Business Model” ด้วยการเขียน Business Model Canvas เพื่อ วางแผนธุรกิจ ด้วยทั้งสิ้น

ดังนั้น ยิ่งถ้าธุรกิจของคุณสามารถ “แก้ปัญหาให้คนส่วนใหญ่ได้” มากเท่าไหร่ .. ขนาดของกลุ่มลูกค้าหรือผู้ใช้งานของคุณก็จะใหญ่ขึ้น โอกาสที่จะมีฐานผู้ใช้งานที่ใหญ่กว่าคนอื่นๆในธุรกิจเดียวกัน หรือแม้กระทั้ง โอกาสในการ “การเพิ่มลูกค้าใหม่” ย่อมเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งแน่นอน โอกาสที่คุณจะมี “ช่องทางในการสร้างรายได้” (Revenue Channel) ย่อมมีมากกว่า เช่นกัน

 


โดยสรุป : บริการ Search Engine อย่าง Google และ Wongnai เป็น บริการค้นหาข้อมูลต่างๆ ที่นอกจากจะให้บริการเครื่องมือค้นหาข้อมูลที่ตรงต่อความต้องการของผู้ใช้งานแล้ว ยังช่วยให้คนส่วนใหญ่ “รู้สึกปลอดภัย”  “ไม่ประหม่า” หรือรวมไปถึง “รู้สึกไม่เสียหน้า” ถือ เป็น “คุณค่าของบริการ” (Value of Services) ทั้งทางตรงและทางอ้อม

และ ด้วยรูปแบบการบริการ (Services) เหล่านี้ ที่แก้ปัญหา Pain Point ให้กับคนส่วนใหญ่ได้นี้เอง จึงเป็น ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ หรือ Key Sucess ที่สำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจผู้ให้บริการเหล่านี้ประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ รวมถึงเป็นตัวอย่าง Case Study ให้เราศึกษาด้าน Business Model ได้เป็นอย่างดี

 

 

หมายเหตุ : บทความนี้ เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวมุมมองหนึ่งในการวิเคราะห์เท่านั้น และยังเป็นเพียงมิติเดียว ณ ปัจจัยอื่นๆ คงที่เท่านั้น ในความเป็นจริงทุกๆอย่างจะเกิดขึ้นพร้อมๆกัน

หากต้องการนำไปอ้างอิงประกอบการศึกษา สามารถทำได้ โดยผู้อ่านสามารถค้นหาบทความอื่นๆจากหลายๆแหล่งที่มาเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน รวมถึงการศึกษาไม่มากก็น้อย 

อ้างอิง :
YouTube Channel: Jampay Thailand
การตลาด เจาะกลุ่มคนเหงา โอกาสทางธุรกิจที่น่าจับตา
Business Model 

ผู้สนับสนุนบทความนี้

Sponsorships, Jampay, Jampay Thailand, แจมเพย์, แจ่มใส, jamsai, jamplay