รีวิว ผลตอบแทน จากการลงทุน (Revealed Investment Performance) ด้วยกลยุทธ์ จัดพอร์ตการลงทุน ครึ่งปีแรก (First-Half) H1/2020 คำนวณผลตอบแทนการลงทุน ใน ตลาดหลักทรัพย์ หรือ ตลาดหุ้น ไทย (Stock Market) หุ้น ไทย (Stocks) ดัชนีหุ้น ไทย (Set Index) เพื่อเงินปันผล (Dividend Yield) จากการซื้อ หุ้นปันผล (Dividend stocks) และ พอร์ตหุ้น ที่ให้ ผลตอบแทนสูง (High Returns) ระยะยาว ฝากเงินรับดอกเบี้ย (Interests) ด้วย บัญชีฝากประจำ (Fixed Deposit Account) บริหารความเสี่ยง (Risk Management) ด้วย ทองคำ (Gold) กองทุน (Funds) กองทุนรวม (Mutual Funds) เพื่อสร้างวิธีต่อยอดเงินและสร้างวิธีสร้าง ทำเงินให้งอกเงย (Wealth Management) ในช่วงระยะเวลาที่ได้รับ ผลกระทบ จาก โควิด19 (COVID-19)
รีวิว ผลตอบแทน จากการลงทุน ด้วยกลยุทธ์ จัดพอร์ตการลงทุน H1/2020
หลังจาก ผู้เขียนลงทุนระยะยาว (Long-Term Investment) มาสักระยะ และด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง อย่างเหตุการณ์ไวรัส โควิด19 (COVID-19) ผู้เขียนจึงระบุไว้ในความเสี่ยง (Risk) ที่ไม่สามารถควมคุมได้ โดยส่งผลกระทบไปยังภาพรวมของเศรษฐกิจ และ ส่งผลกระทบมาถึงภาพรวมของการลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน
วันนี้ แจมเพย์ จะมาเปิดเผยผลตอบแทนจากลงทุน ด้วยกลยุทธ์จัดพอร์ตการลงทุน (Investment Portfolio Strategy) ส่วนบุคคล เพื่อดูว่า การจัดพอร์ตการลงทุน สามารถช่วยให้ภาพรวมการลงทุนของผู้เขียน มีอัตราผลตอบแทน อยู่ในระดับที่น่าพอใจมากน้อยแค่ไหน การบริหารความเสี่ยง และ จัดพอร์ตการลงทุน (Portfolio Management) มีประโยชน์อย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่มีประโยชน์ หากพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย ..
สารบัญ
– H1 คือ อะไร ในบทความทางธุรกิจ
– รีวิว ผลตอบแทนจากการลงทุน
– รีวิวแนวทางการลงทุน
– รีวิวสัดส่วนการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทน
– เครื่องมือที่ใช้ในการประกอบการตัดสินใจ
– สรุป: รีวิว ผลตอบแทน จากการลงทุน ด้วยกลยุทธ์ จัดพอร์ตการลงทุน H1/2020
- กองทุนประกันสังคม ซื้อหุ้นแพง จนขาดทุน จริงหรือไม่?
- เลือกหุ้น ให้เหมือนเลือกคู่ชีวิต (สำหรับนักลงทุนแบบ VI)
- กบข. ขาดทุน? .. ผลตอบแทน กองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ เป็นอย่างไรบ้าง
H1 คือ อะไร
H1 ความหมายในทาง ธุรกิจ คือ ระยะเวลาครึ่งปีแรก (The first half of the year) กล่าวคือ ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน ของทุกปี หรือ ไตรมาสที่ 1-2 (Q1-Q2) ดังนั้น H2 คือ ระยะเวลาครึ่งปีหลัง (The Second half of the year) หรือ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม ของทุกปี หรือ ไตรมาสที่ 3-4 (Q3-Q4) ของปีปฏิทินปกติ
รีวิว ผลตอบแทนจากการลงทุน (Returns of Investment Revealing) จากการ กระจายพอร์ตการลงทุน (Diversified Portfolio)
ผลตอบแทนจากการลงทุน โดยรวมในช่วงเวลา ครึ่งปีแรกของปี 2020 (H1/2020) หรือ ไตรมาสที่ 1-2 (Q1-Q2) ผู้เขียนได้รับอัตราผลตอบแทนที่ ร้อยละ 4.027 (%) ต่อปี ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด (หักภาษีแล้ว)
โดย ผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว ตั้งแต่เริ่มต้นลงทุน อัตราผลตอบแทน อยู่ที่ระดับ ร้อยละ 24.12 (%) หลังจากหักภาษีแล้ว โดยเป็นการคำนวณตามแนวทางของผู้เขียนเอง และไม่ได้มีหลักการคำนวณที่ซับซ้อนมากมายนัก
สมมติเหตุการณ์ และ ยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ กล่าวคือ หากผู้เขียนตั้งเป้าหมาย เก็บเงิน-ออมเงิน (Savings) เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี (60 เดือน) หากไม่ลงทุนอะไรเลย เมื่อครบตามระยะเวลา ผู้เขียนจะมีเงินทั้งสิ้น 300,000 บาท แต่หากผู้เขียนลงทุน ได้รับผลตอบแทนในระดับ ร้อยละ 1.5 (%) ต่อปี แบบผลตอบแทนทบต้น (Compound Effect the first half of the year ) เป็นเวลา 5 ปี คิดอย่างง่าย จะได้ประมาณ 309,136.02 บาท หรือ ประมาณ ร้อยละ 3.045 (%)
ในขณะที่ เมื่อครบกำหนด ผู้เขียนสามารถมีเงินออมเพิ่มขึ้นมาจากที่ควรจะเป็น ทั้งสิ้น ร้อยละ 24.12 (%) กล่าวคือ 300,000 (+ 24.12%) เท่ากับ 372,360 บาท หรือ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย ร้อยละ 11 (%) ต่อปี โดยประมาณ ตามการคำนวณของรูปตัวอย่าง เป็นต้น
แสดงให้เห็นว่า หากผู้เขียนใช้ระยะเวลาลงทุนที่น้อยกว่าตัวอย่าง ผลตอบแทนต่อปีของผู้เขียนจะมากกว่า ร้อยละ 11 (%) ต่อปี ด้วยนั่นเอง
.. ซึ่งช่วงเวลาครึ่งปีแรกของปี 2020 การได้รับผลตอบแทนเท่านี้ ผู้เขียน ถือว่าจบแล้ว และได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลครบแล้วก่อนถึงช่วงสิ้น ระยะเวลาครึ่งปีแรกของปี และ เป็นที่น่าพอใจมากเพียงพอสำหรับการลงทุนของผู้เขียน สำหรับปี 2020 ในขณะที่ภาพรวมของการลงทุนอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าคาด
เพราะ ต้องเรียนผู้อ่านตามตรงว่า จากบทความ “ผลกระทบ โควิด19 (COVID-19) ต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย” ผู้เขียนมองว่า ไม่สามารถประเมินเหตุการณ์ ครึ่งปีหลัง ของปี 2020 (H2/2020) หรือ ปี 2021 ได้อย่างแน่ชัด ว่าจะมีเหตุการณ์เช่นไร ภาพรวมของตลาดหุ้น หรือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นอย่างไร จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง หรือ ปรับตัวลดลงต่อ ภาพรวมของเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน และใช้เวลานานเท่าไหร่ หรือ มี ปัจจัย หรือ พฤติกรรมใดบ้าง ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจ และเศรษฐกิจ
รีวิวแนวทางการลงทุน (Investment Portfolio Planning Revealing)
แนวทางการลงทุนของผู้เขียน เรียบง่ายมาก กล่าวคือ ลงทุนอย่างมีเป้าหมาย และ รักษาวินัยทางการเงิน (Financial Discipline) เพื่อให้บรรจุเป้าหมายนั้น ตามแนวทางที่ได้วางแผนไว้ ซึ่งสิ่งที่ยากที่สุดในการลงทุน คือ การควบคุมจิตใจ (Peace of Mind) และ รักษาวินัย แม้จะเป็นสิ่งที่พื้นฐานที่สุด และ ดูง่ายที่สุด
แนวคิดสำคัญ คือ เติบโตไปอย่างเต่า อย่างช้าๆ ได้ผลตอบแทนไม่มากมายนัก แต่มั่นคง และไม่สูญเสียเงินต้น อาศัยหลักการผลตอบแทนทบต้น หรือ ดอกเบี้ยทบต้น (The Compound Effect) เพื่อเพิ่มระดับอัตราผลตอบแทน อาศัยระยะเวลาการลงทุนที่นานมากเพียงพอในการสร้างผลตอบแทน
อ่านเพิ่มเติม:
–เก็บเงินแสนแรก 100,000 ++ (HOW TO)
–วางแผนการเงิน สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างไร?
–การบริหารเงินสด-สภาพคล่อง สำคัญอย่างไรกับชีวิต-ธุรกิจ-การลงทุน?
รีวิว สัดส่วนการลงทุน (Percentage of Investment Revealing) เพื่อสร้าง ผลตอบแทน (Returns)
ภาพรวมการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2020 (H1/2020) ผู้เขียนจัดพอร์ตการลงทุน ดังนี้ ..
หุ้นสามัญ (Stocks) แบ่งเป็น ร้อยละ 81.07 (%) จากสัดส่วน พอร์ตการลงทุนทั้งหมด โดยแบ่งการ จัดพอร์ตหุ้น ด้วยการลงทุนเป็น หุ้นรายตัว ทั้งสิ้น 15 ตัว หรือ บริษัท กระจายการลงทุนไปในหลากหลายอุตสาหกรรม (Industries) ซึ่งผู้เขียนสามารถยอมรับระดับความเสี่ยงได้สูง จึงเลือกลงทุนใน หุ้น เป็นสัดส่วนที่สูงกว่ามาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่น
เงินฝากประจำ แบ่งเป็น ร้อยละ 9.86 (%) ทองคำ แบ่งเป็น ร้อยละ 8.28 (%) โดยทั้งหมดเป็น ทองคำแท่ง (Gold Bar) 96.5 เก็บรักษาภายในกล่องบรรจุภัณฑ์อย่างดี และ กองทุนรวม (Mutuals Funds) อีก ร้อยละ 0.79 (%)
โดย ผู้เขียนคงสัดส่วนการลงทุนในกองทุนรวม หันมาเพิ่มการลงทุนในทองคำ ในช่วงปลายปี 2019 ก่อนเหตุการณ์ โควิด19 จะเกิดขึ้น และไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ เป็นเพียงการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำเท่านั้น
ถือว่าเป็นจังหวะการปรับแผนการลงทุนที่ดีมาก และช่วยลดความเสียหายจากผลกระทบของเหตุการณ์ โควิด19 (COVID-19) ได้ดีกว่าที่คาดไว้ รวมถึง ผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำแท่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และผลตอบแทนจาก ราคาทอง ตั้งแต่ ต้นปี มกราคม 2020 – เดือน พฤษภาคม 2020 (Yeat-to-Date: YTD) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ ร้อยละ 24 (%)
ซึ่งพอร์ตการลงทุน เงินสดสำรองหรือรายการเทียบเท่า และ เงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จะถูกแยกจากกันอย่างชัดเจน และไม่นำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ และเป็นการรักษาวินัยทางการเงินด้วยตนเอง รวมถึง การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมของช่วงเวลานั้นๆ
อ่านเพิ่มเติม:
– จัดพอร์ตการลงทุน กระจายความเสี่ยงเพื่อให้พอร์ตแข็งแกร่ง!
– ราคาทองคำ เปลี่ยนแปลงจากปัจจัยอะไรได้บ้าง?
เครื่องมือที่ใช้ในการตัดสินใจ (Financial Indicators and Tools to Decision)
เครื่องมือที่ผู้เขียนใช้ในการประกอบการตัดสินใจลงทุน มีไม่มากนัก โดยอาศัยการอ่าน รายงานประจำปี (Annual Report) เพื่อทำความเข้าใจภาพรวมของ ธุรกิจ (Businesses) และ อุตสาหกรรม (Industries) ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ (Risks) ทำความเข้าใจแผนการดำเนินงาน แนวทางในการดำเนินธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) และ การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance)
รวมถึง รายงานทางการเงิน หรือ งบการเงิน (Financial Report) เพื่อทำความเข้าใจ สุขภาพทางการเงินของบริษัท สภาพคล่อง (Liquidity) ทิศทางกำไรบริษัท และรายละเอียดต่างๆ ในงบการเงิน ไม่ว่าจะงบกำไรขาดทุน งบแสดงฐานะการเงิน เป็นต้น
และการอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และมุมมองที่มีต่อด้านเศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และการลงทุน ที่ทำให้ผู้เขียนสามารถมองไปยังระยะยาวได้นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม:
–เลือกหุ้น ให้เหมือนเลือกคู่ชีวิต (สำหรับนักลงทุนแบบ VI)
–ส่องหุ้น จากอัตราส่วนทางการเงินยอดนิยม (สำหรับมือใหม่!)
–“ตลาดหุ้น” และ “หุ้น” ที่ผันผวนแบบนี้ นักลงทุนระยะยาว รับมืออย่างไร?
สรุป: รีวิว ผลตอบแทน จากการลงทุน ด้วยกลยุทธ์ จัดพอร์ตการลงทุน H1/2020
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น กล่าวคือ สถานการณ์ไวรัสระบาด โควิด19 (COVID-19) ที่กระทบกับ ธุรกิจ บริษัท อุตสาหกรรม เป็นวงกว้าง รวมถึง ภาคการลงทุนใน ตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดหุ้น ราคาหุ้น ในตลาดหุ้นไทย และ ตลาดหุ้นต่างประเทศ เริ่มปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งน่าจะเริ่มแสดงให้เห็นผลกระทบอย่างแท้จริงในช่วงครึ่งปีหลังไปจนถึงต้นปีหน้า
เพราะ ผู้เขียน ไม่สามารถคาดการณ์การฟื้นตัวของภาพรวมทางเศรษฐกิจเหตุการณ์หลังจาก โควิด19 (COVID-19) ได้อย่างแน่ชัด จึงเลือกที่จะรับผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ สำหรับปีนี้ไว้ที่ระดับเท่านี้
โดยผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นถึง ประโยชน์ หรือ ข้อดี (Pros) ของการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ของ พอร์ตการลงทุน ว่า มีประโยชน์ต่อภาพรวมของการลงทุน แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ การบริหารความเสี่ยง เป็นตัวช่วยที่สำคัญในการลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย หรือ แม้แต่ช่วยให้นักลงทุนยังสามารถมีผลตอบแทนจากสินทรัพย์อื่นๆ ที่กระจายลงทุนอยู่ แม้ราคาสินทรัพย์บางตัวจะปรับตัวลดลง หรือ มีมูลค่าตลาดลดลง
ทางที่ดีที่สุด คือ ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว ลดความเสียหายจากผลกระทบระยะสั้น
และเลือกที่จะเตรียมถือเงินสด (Cash) หรือ รายการเทียบเท่าเงินสด (Cash Equivalents) มากขึ้น ตลอดช่วงเวลาหลังจากนี้ เพื่อเตรียมสำหรับจังหวะการลงทุนในช่วงหลังจากนี้ หรือ บริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนี้
สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ว่า .. การวางแผนการเงิน เป็นเรื่องสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมีสุขภาพทางการเงินเป็นอย่างไร จะรายได้มาก รายได้น้อย สามารถเริ่มต้นได้ เริ่มเก็บเล็กผสมน้อย วันหนึ่งก็สามารถกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้เช่นกัน อาจต้องใช้เวลานาน แต่ดีกว่าการไม่เริ่มต้น เพราะผู้เขียนเองก็เริ่มต้นมาจากการเก็บเล็กผสมน้อย ค่อยๆสร้างขึ้นมาทีละเล็กละน้อยเช่นกัน
อ้างอิง:
–https://www.settrade.com
–https://www.set.or.th/
–โปรแกรมคำนวณ: ออมเท่าไหร่บรรจุเป้าหมาย โดย Set.or.th